สวัสดีครับ ลุงพอล ใจดี บ้านรีโนเวท www.brainyreno.com เราผนึกกำลังกับกลุ่มเพื่อนพันธมิตร นายทุน ทำบ้านรีโนเวท ในพื้นที่กรุงเทพ-ตะวันออก จากประสบการณ์กว่า15ปี บนเส้นทางนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งสอน เทรน และ ทำด้วยตนเองกับมือ
>> นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้านมือสองของธนาคาร สาเหตุที่มักไม่ผ่านการอนุมัติ และแนวทางการเตรียมตัวเพื่อให้การขอสินเชื่อราบรื่นครับ
🏡 ธนาคารพิจารณาอะไรในการอนุมัติสินเชื่อบ้านมือสอง
ธนาคารจะพิจารณาทั้ง ผู้กู้ และ หลักประกัน (บ้านมือสอง) ประกอบกัน เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้และความเสี่ยง
1. การพิจารณาผู้กู้ (ความสามารถในการชำระหนี้)
* รายได้และความมั่นคงในอาชีพ:
* รายได้สุทธิ: พิจารณารายได้ต่อเดือนและรายได้รวมอื่นๆ ว่าเพียงพอต่อการผ่อนชำระหรือไม่
* ความมั่นคง: ดูอายุงาน (ส่วนใหญ่อย่างน้อย 1-2 ปีในที่ทำงานปัจจุบัน) และลักษณะอาชีพว่ามีความมั่นคงสูงหรือต่ำ
* ภาระหนี้สินต่อรายได้ (Debt to Income Ratio: DTI):
* ธนาคารจะคำนวณภาระหนี้สินทั้งหมดที่ต้องผ่อนต่อเดือน (รวมค่าผ่อนบ้านที่กำลังจะกู้) เมื่อเทียบกับรายได้สุทธิ ซึ่งโดยทั่วไปภาระหนี้ทั้งหมดไม่ควรเกิน 40-50% ของรายได้ต่อเดือน
* ประวัติเครดิตบูโร (Credit Bureau):
* เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดูพฤติกรรมการชำระหนี้ในอดีต ว่าเคยผิดนัดชำระ ล่าช้า หรือเป็นหนี้เสีย (ติด Blacklist) หรือไม่ การมีประวัติชำระดี สม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยบวกอย่างมาก
2. การพิจารณาหลักประกัน (บ้านมือสอง)
* ราคาประเมินของธนาคาร:
* ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินมูลค่าบ้าน ซึ่งวงเงินกู้ที่อนุมัติมักจะอ้างอิงจาก ราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขายจริง ที่ต่ำกว่า
* ถ้า "ราคาซื้อขายสูงกว่าราคาประเมิน" ลูกค้าจะต้องเตรียมเงินส่วนต่างมาจ่ายเอง
* สภาพของหลักประกัน:
* สภาพบ้านต้องดีพอสมควร ไม่มีชำรุดทรุดโทรมจนเกินไป
ใจดี บ้านรีโนเวท www.brainyre.com เราทำบ้านรีโนเวท ทั้งแบบรีโนเวท+เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ครบครัน และ รีโนเวทใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้ตกแต่ง ใส่เฟอร์นิเจอร์ ตามไลฟ์สไตล์ตนเอง
* เอกสารสิทธิ์:
* ตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าถูกต้อง ใครคือเจ้าของ มีภาระผูกพัน (เช่น ติดจำนอง) หรือคดีความฟ้องร้องหรือไม่ ที่ใจดี บ้านรีโนเวท เราตรวจสอบเอกสาร เครดิตลูกค้า เบื้องต้น ก่อนยื่นจริง " รู้ยอดก่อนยื่น"
* ทำเลที่ตั้งและศักยภาพ:
* พิจารณาว่าบ้านตั้งอยู่ในทำเลที่ธนาคารมองว่ามีมูลค่าและสามารถขายต่อได้หากเกิดกรณีผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้
❌ สาเหตุหลักๆ ที่ลูกค้าไม่ผ่านการอนุมัติ
สาเหตุหลักมักมาจากปัญหาด้านผู้กู้เป็นส่วนใหญ่:
* ติดเครดิตบูโร (ประวัติชำระหนี้ไม่ดี): มีประวัติค้างชำระ, ชำระล่าช้าเกินกำหนดบ่อยครั้ง, หรือมีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกปฏิเสธเกือบ 100%
* ภาระหนี้สินสูงเกินไป: มีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระอื่นๆ (บัตรเครดิต, รถยนต์, สินเชื่อส่วนบุคคล) มากเกินไป จนทำให้ DTI เกินกว่าที่ธนาคารกำหนด
* รายได้ไม่มั่นคง/ไม่ชัดเจน:
* มีอายุงานน้อยกว่า 1 ปี
* ประกอบอาชีพอิสระ/ค้าขาย แต่ไม่มีเอกสารแสดงรายได้หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลังที่สม่ำเสมอเพียงพอ
* เอกสารแสดงรายได้ไม่ครบถ้วนหรือไม่สม่ำเสมอ: รายการเดินบัญชี (Statement) ไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่แจ้ง หรือมีเงินเข้าออกไม่สม่ำเสมอ
* หลักประกันมีปัญหา: ราคาซื้อขายสูงกว่าราคาประเมินมาก, สภาพบ้านทรุดโทรมมาก, หรือติดปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์
✅ วิธีเตรียมการเพื่อให้การอนุมัติผ่านได้ง่ายๆ
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้มาก:
การเตรียมตัว รายละเอียดที่ควรทำ
1. จัดการประวัติเครดิต
* ตรวจสอบเครดิตบูโร: ขอตรวจสอบประวัติของตัวเองล่วงหน้า เพื่อดูและแก้ไขจุดบกพร่องก่อนยื่นกู้จริง
2. ลดภาระหนี้สิน
* ปิด/ลดหนี้: เคลียร์หนี้สินที่ไม่จำเป็น เช่น ปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้, ชำระหนี้ที่เหลือให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะหนี้ที่ใช้บัตรเครดิต/สินเชื่อส่วนบุคคล
3. เตรียมเงินดาวน์/สำรอง
* เตรียมเงินก้อน: บ้านมือสองไม่มีการผ่อนดาวน์แบบบ้านใหม่ ควรเตรียมเงินสดสำหรับเงินดาวน์ (ส่วนต่างจากวงเงินกู้) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าจดจำนอง
|4. สร้างวินัยทางการเงิน
* เดินบัญชีสม่ำเสมอ: สำหรับฟรีแลนซ์/เจ้าของธุรกิจ ควรนำเงินเข้า-ออกบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ย้อนหลัง 6 เดือน โดยเฉพาะการออมเงินในบัญชีอย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
5. เตรียมเอกสารให้พร้อม
* ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน: ทั้งเอกสารส่วนตัว เอกสารรายได้ (Statement ย้อนหลัง 6 เดือน, สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน) และเอกสารหลักประกัน
ธุรกิจส่วนตัว และ หรือ อาชีพอิสระ จะใช้เอกสารประกอบเยอะ รวมถึงทางธนาคารต้องส่งฝ่ายสำรวจ ออกไปดูสถานที่จริง
6. เปรียบเทียบและประเมินตนเอง
* ประเมิน DTI: คำนวณภาระหนี้สินของตัวเองให้แน่ใจว่าอยู่ในเกณฑ์ก่อนยื่นกู้จริง
7. รักษาความมั่นคงในงาน
* งดเปลี่ยนงาน: ควรงดเปลี่ยนงานในช่วง 6 เดือน - 1 ปี ก่อนยื่นกู้ เพื่อให้ธนาคารเห็นความมั่นคงในอาชีพ
การเตรียมตัวล่วงหน้า 3-6 เดือน จะช่วยให้คุณมีประวัติทางการเงินที่ดีขึ้นและมีเอกสารครบถ้วน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อเป็นอย่างมากครับ
>> แน่นอนที่สุด ในทุกอาชีพ จะมีมืออาชีพ หากท่านยังกังวล หรือ สงสัย อยากสอบถามเพิ่ม โปรดติดต่อ www.brainyreno.com ปรึกษา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ใจดี ส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกคนมีบ้าน เพราะ บ้านคือที่ ที่ให้ความอบอุ่นและปลอดภัย









